หน่วยที่ 3 การเขียนที่บรรลุวัตถุประสงค์


การเขียนที่บรรลุวัตถุประสงค์

หลักการเขียนแสดงความรู้   36
การเขียนแสดงความรู้มีหลักการดังนี้
1) มีจุดประสงค์ในการเขียนชัดเจนว่าต้องการจะสื่อสารเรื่องอะไร ให้ความรู้ ให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านอย่างไร
2) กำหนดหัวเรื่องที่ผู้เขียนต้องมีความรู้และมีข้อมูลประกอบการเขียน
3) ศึกษาค้นคว้า รวบรวมความรู้ ความคิด ให้เป็นระบบ เพื่อจัดทำโครงเรื่งและลำดับเนื้อหาในการเขียนถ่ายทอดให้ผู้อ่านเข้าใจได้ชัดเจน
4) เขียนอธิบายตามลำดับโครงเรื่อง โดยใช้ภาษาให้สละสลวย ใช้ประโยชน์ง่าย เหมาะสมกับวัยผู้อ่าน
การเขียนแสดงความคิดเห็น 36
         การเขียนแสดงความคิดเห็นเป็นการเขียนที่ประกอบด้วยเหตุผล    มีข้อมูลมีหลักฐานที่ผู้อื่นจะเชื่อถือได้  การเขียนแสดงความคิดเห็นมีหมายรูปแบบ    บางครั้งก็เขียนออกมาในรูปของจดหมาย บทความ บันทึก บรรยายพรรณนา ฯลฯ การเขียนในลักษณะดังกล่าวหากเขียนเพื่อลงพิมพ์ในสื่อมวลชน  งานเขียนนั้นจะต้องได้รับการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี ภาษาที่ใช้ต้องสุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
หลักการเขียนแสดงความคิดเห็น
1) การเลือกเรื่องผู้เขียนควรเลือกเรื่องที่เป็นที่สนใจของสังคมหรือเป็นเรื่องที่ทันสมัยอาจเกี่ยวกับเหตุการทางการเมืองเศรษฐกิจสังคม ศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือข่าวเหตุการประจำวัน ทั้งนี้ผู้เขียนต้องมีความรู้และเข้าใจเรื่องที่ตนจะแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างดี เพื่อที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างลึกซึ้ง
2) การให้ข้อเท็จจริงข้อมูลที่เลือกมานั้นจะต้องมีรายละเอียดต่างๆ เช่น ที่มาของเรื่อง ความสำคัญ และเหตุการณ์เป็นต้น
3) การลำดับ ควรลำดับเรื่องให้มีความต่อเนื่องสอดคล้องกันตั้งแต่ต้นจนจบไม่ควรเขียนวกไปวนมา เพราะผู้อ่านอาจเกิดความสับสนจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริงและส่วนใดเป็นการแสดงความคิดเห็น
การเขียนแสดงความคิดเห็น ควรประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
  1. ที่มา  คือ ส่วนที่เป็นเรื่องราวต่าง ๆ หรือต้นเรื่องที่ผู้เขียนต้องการจะแสดงความคิดเห็นที่มาของการแสดงคิดเห็นจะช่วยให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องแสดงความคิดเห็น ส่วนนี้จะช่วยให้ผู้รับสารเข้าใจเรื่องราว และพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นนั้น
  2. ข้อสนับสนุน  คือ ข้อเท็จจริง หลักการรวมทั้งข้อมูลอันเป็นความคิดเห็นของผู้อื่นที่ผู้แสดงความคิดเห็นนำมาประกอบเพื่อให้ความคิดเห็นของตนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
  3. ข้อสรุป  คือ สิ่งที่ต้องการสื่อให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านยอมรับหรือนำไปปฏิบัติ ข้อสรุปอาจเป็นข้อเสนอแนะ ข้อสันนิษฐาน หรือการประเมินค่าซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นนำเสนอ
วิธีเขียนแสดงความคิดเห็น
         ในการเขียนแสดงความคิดเห็นนั้น ผู้เขียนต้องนึกถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องที่เขียนขึ้นนั้น ก็เพราะความรู้ประสบการณ์ ความเชื่อ และค่านิยมของบุคคลนั้น ๆ อย่างเช่นคนไม่เชื่อเรื่องผี ถ้ามีผู้แสดงความคิดเห็นและพยายามที่จะให้เชื่อเรื่องผีก็ย่อมเป็นไปได้ยาก การแสดงความคิดเห็นจึงจำเป็นต้องอาศัยวิธีการในการเขียนเพื่อให้บุคคลเชื่อถือความคิดเห็นของเรา
วิธีการเขียนจึงต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
  1. ประโยชน์ความคิดเห็นที่ดีต้องมีประโยชน์และมีคุณค่าต่อผู้อ่าน ประโยชน์ในที่นี้ต้องเป็นประโยชน์ต่อบุคคลส่วนใหญ่ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
  2. ความสมเหตุสมผลความคิดเห็นที่ดีต้องมีความสมเหตุสมผล ข้อสนับสนุนต้องมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป กรณีตัวอย่างที่นำมาอ้างต้องเป็นตัวแทนของกรณ๊ทั้งหมดได้อย่างแท้จริง
36 หลักการเขียนแสดงภาพ  
1. ต้องใช้คำดี หมายถึง เลือกสรรถ้อยคำเพื่อให้สื่อความหมาย สื่อภาพ สื่ออารมณ์เหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่ต้องการ พรรณนา ควรเลือกคำ ที่ให้ความหมายชัดเจน ทั้งอาจต้องเลือกให้เสียงคำสัมผัสกัน เพื่อเกิดเสียงเสนาะอย่างสัมผัสสระ  สัมผัสอักษรในงานร้อยกรอง
2. ต้องมีใจความดี แม้จะพรรณนายืดยาว แต่ใจความต้องมุ่งให้เกิดภาพ และอารมณ์ความรู้สึกสอดคล้องกับเนื้อหาที่กำลังพรรณนา
3. อาจต้องใช้โวหาร ภาพพจน์ คือ การเปรียบเทียบเพื่อให้ได้ภาพชัดเจน และมักใช้ศิลปะการใช้คำ ที่ เรียกว่า ภาพพจน์ประเภทต่าง ๆ ทั้งนี้ เป็นวิธีการที่จะทำให้พรรณนาโวหารเด่น ทั้งการใช้คำและการใช้ภาพที่แจ่มแจ้ง อ่านแล้วเกิดจินตนาการและความรู้สึกคล้อยตาม
4. ในบางกรณีอาจต้องใช้สาธกโวหารประกอบด้วย คือ การยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความแจ่มแจ้ง โดยยกตัวอย่างสิ่งที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน เพื่อให้เกิดภาพและอารมณ์เด่นชัด  พรรณนาโวหารมักใช้กับการชมความงาม ต่าง ๆ เช่น ชมสถานที่ สรรเสริญบุคคล หรือใช้พรรณนาอารมณ์ ความรู้สึก เช่น รัก เกลียด โกธร แค้น เศร้าสลด เป็นต้น
36การเขียนแสดงอารมณ์ความรู้สึก
ภาษานอกจากจะทำหน้าที่สื่อสารเพื่อให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวซึ่งกันและกันแล้ว    ภาษายังทำหน้าที่สื่อสารความรู้สึกและความคิดอีกด้วย สารที่เป็นความรู้สึกหรือความคิดเป็นสารที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล   เพราะความรู้สึกหรือความคิดแต่ละบุคคลย่อมไม่เหมือนกัน แต่บอกไม่ได้ว่าใครรู้สึกมากหรือน้อยกว่ากัน    ความรูสึกของคนเราจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อตนเองมีความหลังกับสิ่งนั้น ๆ หรือเราเอาหัวใจไปผูกพันกับสิ่งที่จะกระตุ้นให้เราเกิดความสะเทือนใจ
สิ่งที่กระตุ้นความรู้สึก    หมายถึง สถานที่ วัตถุ สถานการณ์ ความคิดเห็นบางประการ บุคคลตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ที่เราเคยประสบมา    ทั้งในอดีตหรืออาจจะเพิ่งเกิดขึ้น และสิ่งนั้นคอยกระตุ้นให้จิตใจเราไหวสะเทือนไปด้วย ความสะเทือนใจ    หมายถึง ความรู้สึกและอารมณ์ทุกอย่างไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ เศร้าใจ ขบขัน รังเกียจ    หวาดกลัว โกรธเคียดแค้น เป็นต้น
หลักการเขียนแสดงอารมณ์ความรู้สึก  
การเขียนแสดงความรู้สึก มีขั้นตอนดังนี้
  1. รู้จักสะสมคำ
การสะสมคำ เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราเลี่ยงนิสัยการคิดติดอยู่กับถ้อยคำที่ใช้กันทั่ว ๆ ไป จนไม่มีความแปลกใหม่ เช่น ท้องฟ้าสีคราม ผ้าขาวดุจสำลี ดำเหมือนถ่าน เป็นต้น
การหลีกเลี่ยงการใช้คำดาด ๆ จะทำให้เรามีความคิดกว้างขวางขึ้น รู้จักเลือกใช้คำเพื่อให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการและความรู้สึกตามด้วย
วิธีสะสมคำนั้น ควรจดไว้ในสมุดที่พกติดตัวได้ เพื่อสะดวกในการนำไปด้วยเมื่อได้เห็นและได้ยินถ้อยคำแปลก ๆ ไม่เคยใช้มาก่อน เราก็จดไว้ เมื่อจดแล้วก็ต้องนำมาใช้ด้วยเพื่อกันลืม
  1. ฝึกใช้คำบอกความรู้สึก
คำที่ใช้บอกความรู้สึกมีมากมายทั้งในความรู้สึกที่ดีและที่ไม่ดี ความรู้สึกที่ดี เช่น รัก ชอบ พอใจ ถูกใจ ตื้นตันใจ ยินดีปรีดา อบอุ่น ชื่นชม ยินดี ประทับใจ เป็นต้น
ความรู้สึกที่ไม่ดี    เช่น โกธร เกลียด หวาดหวั่น ว้าเหว่ หวาดกลัว ข้องใจ อึดอัด อิจฉา ช้ำใจ เศร้าโศก    เคียดแค้น ชิงชัง เป็นต้น
คำบอกความรู้สึกเหล่านี้ ถ้าเรานำมาใช้แล้วข้อความที่เราเขียนทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกคล้อยตามก็แสดงว่างานเขียนของเราใช้ได้ แต่ถ้าผู้อ่านยังไม่เกิดความรู้สึกอย่างที่เราคาดหวังเราก็คงต้องฝึกต่อไปอีก
  1. การใช้ถ้อยคำมาเปรียบเทียบเพื่อแสดงความรู้สึก
การเขียนแสดงความรู้สึกนั้น  บางครั้งเราได้พบเห็นสิ่งที่เคยฝังใจในอดีต ทำให้เกิดความสะเทือนอารมณ์ จึงเขียนแสดงความรู้สึกได้  เช่น เล่าความรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต บรรยายความรู้สึกสนุกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บรรยายความรู้สึกสงสารสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ป่าที่ถูกทำร้าย
กลวิธีในการเขียนแสดงอารมณ์ความรู้สึก
  1. รูปแบบ กลวิธีการเขียนแสดงความรู้สึกมีหลายรูปแบบ ไม่เฉพาะเจาะจงวิธีใดวิธีหนึ่งอาจจะเป็นการเขียนประโยคสั้น ๆ แต่ใช้ภาษาที่มีความหมายลึกซึ้ง หรืออาจจะเขียนเป็นเนื้อความยาว ๆ แบบความเรียง เช่น เขียนจดหมาย เขียนแสดงความประทับใจ เรื่องใดเรื่องหนึ่งลงพิมพ์ในหนังสือ เป็นต้น
  2. ภาษาที่ใช้ การเขียนแสดงความรู้สึกความสำคัญอยู่ที่การใช้ภาษา ภาษาที่ใช้ต้องทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นความเศร้าเสียใจ ดีใจ ตื่นเต้น สนุกสนาน ประทับใจ โกรธ เกลียด การเลือกใช้คำในการเขียนถือได้ว่าเป็นหัวใจของการเขียนแสดงอารมณ์ความรู้สึก
บทความน่ารู้เกี่ยวกับการเขียนแสดงภาพ 36

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หน่วยที่ 4 เหตุผลกับภาษา

หน่วยที่ 1 สามัคคีเภทคำฉันท์